ปัจจุบันการเลือกเช่าสำนักงานกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น เมื่อเทียบกับการปลูกสร้างสำนักงานหรือบริษัทเอง เพราะมีทั้งความพร้อมในการใช้งาน และประหยัดงบประมาณได้เยอะมากกว่าหลายเท่าตัว แต่ถ้าได้ลองหาดูแล้ว ก็จะพบเลยว่ามีผู้ให้บริการสำนักงานให้เช่า เยอะมาๆ แต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกัน แล้วถ้าเราจะต้องเลือกเช่าสำนักงานสักที่ เราควรดูจากอะไรบ้าง เรามีเช็คลิสมาให้คุณใช้ประกอบการตัดสินใจครับ
15 ข้อที่ควรรู้ก่อนเลือกเช่าสำนักงาน
งบประมาณ
กำหนดงบประมาณของคุณสำหรับการเช่าสำนักงาน เช่น ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกัน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมระหว่างการทำงาน
สถานที่
เลือกสถานที่ที่เดินทางได้สะดวกและเหมาะกับความต้องการของคุณ รวมถึงพนักงาน ลูกค้า และซัพพลายเออร์ ว่าสามารถเดินทางหรือเข้าถึงได้ยากง่ายแค่ไหน
พื้นที่สำนักงาน
ควรประเมินจำนวนพื้นที่ที่จำเป็นเพื่อรองรับทีมงานปัจจุบันของคุณและโอกาสในการเติบโตในอนาคตของทีม เพื่อจัดหาสำนักงานที่สามารถรองรับทีมได้ทุกคน
เงื่อนไขการเช่า
การตรวจสอบสัญญาเช่าอย่างรอบคอบ ระยะเวลา การต่ออายุ และค่าใช้จ่าย รวมไปจนถึงเงื่อนไขแอบแฝงที่อาจตามมาภายหลัง เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นที่สุ
สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ในอาคารสำนักงาน เช่น ที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย ลิฟต์ และพื้นที่ส่วนกลาง
โครงสร้างพื้นฐาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสำนักงานมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สายโทรศัพท์ ระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และระบบปรับอากาศ (HVAC) ที่เชื่อถือได้
การออกแบบ
ตรวจเช็ครูปแบบและการออกแบบของสำนักงานเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับความต้องการและเข้ากันได้ดีกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
ความปลอดภัย
ตรวจสอบว่าพื้นที่สำนักงานเป็นไปตามรหัสอาคารและมีข้อบังคับด้านความปลอดภัย ที่ครบถ้วนและถูกต้องตามหลัก
พื้นที่ในบริเวณใกล้เคียง
สำนักงานที่ดีควรมีพื้นที่อำนวยความสะดวกในบริเวณใกล้เคียง เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ธนาคาร และระบบขนส่งมวลชน
การขยายตัวในอนาคต
ถ้าอยู่ในช่วงการพัฒนาหรือเติบโตของธุรกิจ ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวขึ้น การเลือกพื้นที่สำนักงานจะต้องสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของคุณในอนาคต ว่าได้หรือไม่
การแข่งขันทางธุรกิจ
ตรวจสอบว่ามีธุรกิจที่เป็นคู่แข่งขันกันในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน หรือมีการแทรกแซงเข้าถึงธุรกิจของคุณได้หรือไม่
ระดับเสียง
ระดับเสียงภายในและบริเวณรอบๆ สำนักงานเพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานเอื้ออำนวย ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน
ปัญหาด้านกฎหมาย
ดำเนินการตรวจสอบสถานะเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเช่าสำนักงานไม่มีข้อพิพาททางกฎหมายหรือการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน
ข้อมูลของผู้ให้บริการ
ศึกษาข้อมู,ของเจ้าของผู้ให้บริการหรือบริษัทจัดการทรัพย์สิน เพื่อศึกษาความน่าเชื่อถือ
ความยืดหยุ่น
หากธุรกิจของคุณต้องการความยืดหยุ่น ให้สำรวจตัวเลือกสำหรับการเช่าระยะสั้นหรือ co-working space
เมื่อได้พิจารณาข้อมูลจากเช็คลิสนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว จะช่วยให้คุณจะมีความพร้อมมากขึ้นในการตัดสินใจอย่างรอบคอบและสามารถค้นหาพื้นที่สำนักงานที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจคุณได้เป็นอย่างดี
และถ้าคุณกำลังมองหาสำนักงานให้เช่า ที่มีฟังก์ชันครบครัน สิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย
เราขอแนะนำ Kaitak Narita Tower สำนักงานให้เช่า พื้นที่ใช้สอยกว้างขว้างเป็นสัดส่วน มีความสูงทั้งหมด 10 ชั้น มีรูปลักษณ์ที่ออกแบบอย่างทันสมัย เลือกขนาดพื้นได้เอง ตั้งแต่ 15 – 300 ตารางเมตร ตั้งที่อยู่เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ ติดกับทางด่วน ทำให้สะดวกในการเดินทางมากขึ้น
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Office Bkk
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ออฟฟิศให้เช่า เป็นทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ที่ให้เช่าแก่ธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปเพื่อใช้เป็นสำนักงาน สำนักงานให้เช่าสามารถพบได้ในหลากหลายสถานที่ รวมถึงพื้นที่ใจกลางเมือง สวนสำนักงานชานเมือง และแม้แต่พื้นที่อุตสาหกรรม
สำนักงานให้เช่ามีหลายประเภท ได้แก่
สำนักงานแบบดั้งเดิมเป็นอาคารเดี่ยวที่ปล่อยให้ธุรกิจเช่า สำนักงานแบบดั้งเดิมมีพื้นที่และความเป็นส่วนตัวมากที่สุด แต่ก็มีราคาแพงที่สุดเช่นกัน
พื้นที่ทำงานร่วมกันเป็นพื้นที่สำนักงานที่ใช้ร่วมกันซึ่งให้เช่าสำหรับธุรกิจทุกขนาด Co-working space เป็นตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยามากกว่าสำนักงานแบบเดิมๆ และยังให้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับธุรกิจอื่นๆ
สำนักงานเสมือนเป็นบริการที่ให้ที่อยู่ธุรกิจและหมายเลขโทรศัพท์แก่คุณโดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานจริง สำนักงานเสมือนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการที่อยู่แบบมืออาชีพ แต่ไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานจริง
ค่าเช่าสำนักงานจะแตกต่างกันไปตามขนาดของสำนักงาน สถานที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก มีสำนักงานให้เช่าหลายประเภท และประเภทที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณจะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของตัวเราเอง ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาในการเลือกเช่าสำนักงานแบบง่ายๆ สามารถใช้ได้กับทุกสถานะการณ์
เทคนิคการเลือกเช่าออฟฟิศให้เหมาะกับธุรกิจที่เราทำอยู่
1. ขนาดที่เหมาะสม กับความต้องการ หากทีมงานของเรามีขนาดเล็ก เราขอแนะนำเป็นพื้นที่ทำงานร่วมหรือสำนักงานขนาดเล็กได้ แต่ถ้ามีทีทงานที่ค่อนข้างเยอะ ขนาดพื้นที่ก็จะใหญ่ขึ้นมาด้วย หรือต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย การเช่าสำนักงานแบบ อาคารเดี่ยว ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ราคาก็จะสูงมากเช่นเดียวกัน
2. สถานที่ที่อยากได้เป็นพิเศษ ถ้ามีอยู่ในใจแล้วอย่าปิด ให้พูดหรือบอกความต้องการออกมาเพื่อใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการมองหาออฟฟิศให้เช่าที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด หรือจะยึดปัจจัยอื่นเข้ามาด้วยก็ไม่มีปัญหาอย่าง ลูกค้าที่จะเข้ามาสำนักงาน เราต้องเลือกสถานที่ที่สะดวกสำหรับกลุ่มลูกค้าของเรา หรือจะเลือกจากทีมก็ได้เช่นเดียวกัน ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกได้ง่ายมากขึ้น
3. สิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกใดที่สำคัญสำหรับเรามีอะไรบ้าง สำนักงานให้เช่าบางแห่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กาแฟฟรี Wi-Fi และเคาร์เตอร์บริการ ห้องประชุมบางแห่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรากว่า เช่น ยิม สระว่ายน้ำ และดาดฟ้า สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ด้วยเช่นเดียวกัน
4. ค่าใช้จ่าย งบในการเช่าก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เราต้องรู้ว่าเราไหวที่เท่าไหร่ ไม่เช่าพื้นที่แพงเกินตัว ซึ่งตัวเราเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ค่าเช่าสำนักงานนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของสำนักงาน สถานที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก พยายามเลือกที่ไหวและไม่เกินตัวจะดีที่สุด
เมื่อสามารถรวบรวมข้อมูเบื้องต้นได้ทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว ที่นี้ก็ถึงเวลามองหาออฟฟิศให้เช่าจริงๆสักที มีเว็บไซต์และไดเร็กทอรีมากมายที่แสดงรายการออฟฟิศให้เช่า หรือจะติดต่อ ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยเราหาก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อเราได้แบบที่โดนใจแล้วอย่าลืม ลงนามในสัญญาเช่า สัญญาเช่าเป็นเอกสารทางกฎหมายที่ระบุเงื่อนไขการเช่าของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องอ่านสัญญาเช่าอย่างรอบคอบก่อนที่จะลงนามทุกครั้ง จะขอเวลาทำความเข้าใจกับเอกสารนานหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ควรอ่านให้ครบอย่าได้มีตกหล่น ข้อไหนที่สงสัยก็โน๊ตไว้ แล้วค่อนกลับมาถาม ก่อนที่จะลงนาม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ออฟฟิศให้เช่า คืออะไร ? ออฟฟิศให้เช่า คือ ออฟฟิศพื้นที่สำนักงานที่พร้อมบริการดูแลเรื่องต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการที่มีเวลาน้อยหรือไม่มีเลย ด้วยพื้นที่สำนักงานที่มีอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งคุณแค่จะต้องนำแล็ปท็อปมาด้วยเท่านั้น มีพนักงานคอยให้บริการอยู่เสมอ ช่วยลดการเสียเวลา มีการเตรียมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว ไม่ต้องค้นหาเครื่องชงกาแฟใหม่หรือการติดต่อจองห้องประชุมก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ด้วยพื้นที่ของออฟฟิศสำนักงานที่พร้อมให้บริการ สิ่งเหล่านี้รวมอยู่ในแพ็คเกจมาตรฐานของออฟฟิศให้เช่าแล้ว
ทำไมถึงควรเลือกเช่าออฟฟิศ?
สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทเปิดใหม่ หรือธุรกิจสตาร์ทอัพ อาจมีความสนใจที่จะค้นหาว่าออฟฟิศให้เช่าพร้อมบริการเหมาะสมกับบริษัทหรือธุรกิจของคุณหรือไม่ จะเป็นเรื่องดีไหม ที่เราจะเหตุผลที่ดีของการใช้บริการเช่าออฟฟิศ ในบทความนี้ เราได้แสดงเหตุผลหลัก 6 ข้อว่าทำไมคุณจึงควรเลือกเช่าออฟฟิศดีกว่าสร้างเอง
1. ความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงาน
ความคล่องตัวและยืดหยุ่นของการเช่าออฟฟิศ คือเหตุผลที่หลายบริษัทเลือกใช้สำนักงานประเภทนี้ บ่อยครั้งด้วยพื้นที่สำนักงานแบบเดิม ที่ไม่สามารถชำระเงินเป็นรายเดือนได้ และไม่สามารถยกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที แต่ออฟฟิศให้เช่า จะทำให้บริษัทของคุณจะไม่ถูกผูกมัดกับระยะเวลาเช่าที่แน่นอนอีกต่อไป คุณสามารถจ่ายค่าเช่าต่อเดือนได้ นอกจากนี้คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่สำนักงานมีสิ่งอำนวยความสะดวกและการตกแต่งภายในที่จำเป็นอยู่แล้ว การเช่าออฟฟิศพร้อมใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น นั่นหมายความว่าคุณสามารถเริ่มทำงานได้ทันที ด้วยสิ่งนี้สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการเตรียมพื้นที่สำนักงานได้อย่างมาก
2. พื้นที่ออฟฟิศพร้อมใช้งานทันที
ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้อก่อนหน้านี้ เมื่อย้ายไปยังพื้นที่สำนักงานพร้อมบริการ คุณไม่จำเป็นต้องจัดการกับเวลาหยุดทำงานเพิ่มเติม เนื่องจากการย้ายที่ตั้ง โดยปกติแล้ว การย้ายไปยังอาคารสำนักงานใหม่อาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจหลักของคุณอย่างมาก แต่การเช่าออฟฟิศพร้อมบริการได้รับการจัดตั้งในรูปแบบที่สามารถใช้พื้นที่สำนักงานใหม่ได้ทันที ทุกสิ่งภายในพื้นที่สำนักงานสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เริ่มต้น และคุณสามารถทำงานได้ทุกเวลาเมื่อที่คุณต้องการ
3. เทคโนโลยีใหม่
ออฟฟิศให้เช่าพร้อมบริการพยายามทำให้มั่นใจว่าบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมีคุณภาพสูงสุด การซื้ออุปกรณ์ของคุณเองหรือจ้างพนักงานประจำสำหรับงานต่างๆ อาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มเติม ด้วยออฟฟิศพร้อมบริการที่มีอุปกรณ์เพรียบพร้อม คุณจะไม่มีข้อผูกมัดในสัญญาเพิ่มเติมใดๆ และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่
4. ค่าใช้จ่ายต่อเดือน
การเช่าสำนักงานแบบเดิมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมากมายที่ไม่รวมอยู่ในค่าเช่า ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ การทำความสะอาดพื้นที่เช่า หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในขณะที่ Office BKK จะให้ใบแจ้งหนี้เพียงใบเดียว ราคาจะรวมทุกอย่าง การใช้พื้นที่, สาธารณูปโภค, มักจะรวมถึงกาแฟและชา ใบแจ้งหนี้ใบเดียวหมายถึงการเรียกเก็บเงินที่ง่ายขึ้นและไม่มีขั้นตอนเพิ่มเติม ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ ช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานของคุณได้อย่างง่ายดาย
5. การบำรุงรักษา
หลังจากได้กล่าวถึงบริการบางส่วนที่รวมอยู่ในการเช่าออฟฟิศพร้อมบริการแล้ว การบำรุงรักษาก็เป็นหนึ่งในบริการเหล่านี้เช่นกัน การใช้เวลาและเงินในการบำรุงรักษาพื้นที่สำนักงานอาจถูกมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่สำนักงานต้องได้รับการดูแล ด้วยสำนักงานพร้อมบริการ ค่าบำรุงรักษารวมอยู่ในราคาเช่ารายเดือนแล้ว และคุณไม่ต้องเสียเงินซื้อ สิ่งนี้ช่วยคุณประหยัดเวลาและเงินโดยจ้างคนทำความสะอาดและช่างเทคนิคที่ดูแลพื้นที่สำนักงานของคุณ
6. การเซ็นสัญญาในช่วงเวลาที่กำหนด
การเช่าออฟฟิศพร้อมบริการมักถูกมองข้ามเนื่องจากราคาค่าเช่ารายเดือนนั้นสูงกว่าเล็กน้อย ออฟฟิศพร้อมบริการคือพื้นที่ที่ต้องจ่ายค่าบริการ และจ่ายเฉพาะพื้นที่จริงที่คุณต้องการพร้อมบริการที่จำเป็นเท่านั้น สัญญาเช่ามีระยะเวลาสั้นกว่าและสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ ซึ่งชดเชยด้วยค่าเช่ารายเดือนที่สูงขึ้น แต่คุณจะได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่รวมไว้มากกว่าพื้นที่สำนักงานแบบเดิมอย่างแน่นอน
สรุปว่าการเช่าออฟฟิศดีกว่าสร้างเองไหม
การเช่าสำนักงานดีกว่าการสร้างสำนักงานหรือไม่ การตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์เฉพาะของคุณ ตัวเลือกทั้งสองมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน และตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน ตำแหน่งที่ตั้ง ความยืดหยุ่น และการปรับแต่ง สิ่งสำคัญคือการดูปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดอย่างรอบคอบและพิจารณาผลกระทบระยะยาวของการตัดสินใจของคุณก่อนตัดสินใจว่าจะเช่าหรือสร้างออฟฟิศเอง
หากคุณกำลังมองหาออฟฟิศให้เช่าพร้อมบริการที่มีตัวเลือกมากมาย Office BKK ได้รวบรวมบริการทั้งหมดที่ผู้ประกอบการไม่มีเวลาจัดหา บริการทุกอย่างที่คุณจ่ายไปสามารถปรับแต่งตามความต้องการของคุณได้ทั้งหมด ถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับความเป็นไปได้สำหรับบริษัทของคุณ ทางของเรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีข้อผูกมัดใดๆ และบางทีคุณอาจจะได้ที่ทำงานจากออฟฟิศพร้อมบริการในเร็วๆ นี้!
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ระบบรักษาความปลอดภัยในออฟฟิศเป็นสิ่งที่ควรจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ในธุรกิจสำนักงาน ซึ่งมักถูกมองข้ามเนื่องจากธุรกิจที่ทำนั้นอาจมีขนาดเล็กเกินไป ความจริงแล้วมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมนั้นมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จ เพราะช่วยดูแลให้พนักงานได้รับการปกป้องจากอันตรายที่อาจเกิดจากการทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถปกป้องธุรกิจของคุณทางกฎหมาย และช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บในที่ทำงาน ดังนั้นระบบรักษาความปลอดภัยสำนักงานที่เหมาะสม และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง จะช่วยปกป้องบริษัทของคุณจากการสูญเสียเวลาและเงินอีกด้วย เหตุนี้ระบบรักษาความปลอดภัยสำนักงานที่เหมาะสมและข้อควรระวังจึงถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัยของสำนักงาน
ระบบควบคุมการเข้า-ออกสำนักงาน ระบบควบคุมการเข้าออกประตูสำนักงานจะช่วยให้สามารถควบคุมได้ว่าใครที่สามารถเข้าถึงสำนักงานได้และใครบ้างที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ การใช้บัตรและป้าย หรือ RFID ถือว่าเป็นวิธีง่ายๆ ในการสร้างข้อมูลประจำตัวสำหรับ เพื่อระบุตัวตนในการเข้าถึงและเป็นการรักษาความปลอดภัยของสำนักงาน ระบบควบคุมการเข้าออกประตูสำนักงานที่มีราคาแพงกว่าอาจใช้ข้อมูลรับรองแบบ Biometrics หรือข้อมูลที่เป็นกายภาพ เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า เพื่อการเข้าถึงที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
กล้องวงจรปิด หรือ CCTV ในสำนักงาน CCTV เป็นระบบกล้องวิดีโอที่ใช้ในการตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมในพื้นที่เฉพาะ กล้องวงจรปิดมักใช้ในสำนักงานเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยและยับยั้งอาชญากรรม นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเมื่อพูดถึงกล้องวงจรปิดในที่ทำงาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทต่างๆ จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้กล้องวงจรปิด และเพื่อให้แน่ใจว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ระบบการเตือนภัยสำนักงาน มีคำเตือนหลายประเภทที่อาจได้รับในสำนักงาน ตัวอย่างทั่วไป เช่น
คำเตือนเพื่อความปลอดภัย : อาจติดไว้ในบริเวณที่อาจเป็นอันตราย เช่น พื้นเปียกหรือเครื่องจักรหนัก จุดประสงค์ของคำเตือนเหล่านี้คือเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บคำเตือนเกี่ยวกับนโยบาย : อาจมอบให้กับพนักงานเพื่อเตือนพวกเขาเกี่ยวกับนโยบายหรือกฎของบริษัทที่คาดหวังให้พวกเขาปฏิบัติตามคำเตือนทางกฎหมาย : อาจมีให้ในกรณีที่การกระทำของพนักงานอาจส่งผลทางกฎหมายต่อบริษัท ตัวอย่างเช่น หากพบว่าพนักงานมีส่วนร่วมในการเลือกปฏิบัติหรือคุกคาม บริษัทอาจให้คำเตือนทางกฎหมายแก่พวกเขาเพื่อป้องกันตนเองจากการฟ้องร้องที่อาจเกิดขึ้น
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่จะต้องมีนโยบายและขั้นตอนที่ชัดเจนในการให้คำเตือนและเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดการอย่างยุติธรรมและสม่ำเสมอ
การดูแลรักษาความปลอดภัยด้านดิจิทัล คือแนวทางปฏิบัติในการปกป้องคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เครือข่าย และข้อมูลจากการโจมตีทางดิจิทัล การสร้างความเสียหาย หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ ในการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับความปลอดภัย เนื่องจากสามารถช่วยปกป้องข้อมูลทางธุรกิจที่ละเอียดอ่อน ป้องกันการละเมิดข้อมูล และรักษาความไว้วางใจของลูกค้าและผู้รับบริการ มีมาตรการต่างๆ มากมายที่บริษัทสามารถใช้เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางดิจิทัลในที่ทำงาน เช่น
ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์
การใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ
ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับวิธีการระบุและหลีกเลี่ยงการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง
จำกัดการเข้าถึงระบบและข้อมูลที่สำคัญเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
สำรองข้อมูลสำคัญเป็นประจำ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และระบบทั้งหมดได้รับการแพตช์และเป็นปัจจุบัน
การใช้โปรโตคอลที่ปลอดภัยสำหรับการสื่อสาร เช่น HTTPS และ SSL
การใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยสำหรับบัญชีที่ละเอียดอ่อน
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้และขั้นตอนอื่นๆ บริษัทต่างๆ สามารถช่วยปกป้องตนเองและลูกค้าจากภัยคุกคามทางดิจิทัลและรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินทางดิจิทัลของตนได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ระบบรักษาความปลอดภัยในสำนักงานที่ครอบคลุมและมีมาตรการที่เหมาะสมจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น การรักษาความปลอดภัยในสำนักงานอาจเป็นระบบที่ซับซ้อน แต่ประเด็นพื้นฐานเหล่านี้ควรช่วยคุณในการเริ่มต้นตั้งค่าระบบและรักษาความปลอดภัยให้กับธุรกิจของคุณ การเลือกเช่าออฟฟิศอาจจะเป็นทางออกที่ดี ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบคันจะช่วยให้คุณลดความยุ่งยากลงไปได้มาก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สำนักงานให้เช่า บริษัท ไคตัค นาริตะ มีระบบรักษาความปลอดภัย ใช้คีย์การ์ดเข้า-ออก มีกล้องวงจรปิด พร้อมรปภ. ดูแลอาคารตลอด 24 ชั่วโมง มีความยืดหยุ่นกับธุรกิจของคุณ โดยตัวอาคารเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้การทำงานไม่มีสะดุด เปิดให้เช่าใน ราคาพิเศษ!! สนใจอ่านรายละเอียด
Get Tally ERP 9 Free Download for Efficient Business Management
I’m really excited to share how I found the Tally ERP 9 free download! This software is perfect for managing my business efficiently. Tally ERP 9 for small businesses is a game changer because it helps me keep track of my finances easily.
When I first started using Tally, I tried the Tally ERP 9 demo version to see how it works. It was super helpful to understand all the features before I made a decision. After that, I went ahead with the Tally ERP download, and I’ve been using it ever since.
Tally Solutions has made managing my business so much easier. I can handle everything from invoicing to inventory management without any hassle. If you’re looking for a way to streamline your business processes, I highly recommend checking out Tally ERP 9!
Key Details of Tally ERP 9
Tally ERP 9 is packed with amazing features that make it a top choice for many businesses. I love how it simplifies my daily tasks. The Tally ERP 9 pricing plans are flexible, which means I can choose what fits my budget best. Plus, I often check Tally ERP 9 user reviews to see what others think, and they usually have great things to say!
Features of Tally ERP 9
One of the best things about Tally ERP 9 is its GST compliance . This feature helps me stay on top of tax regulations without stress. I also enjoy using Tally ERP 9 for inventory management . It keeps track of my stock levels so I never run out of products.
Another cool feature is financial reporting . I can generate reports quickly, which helps me understand my business better. The sales tracking and purchase management features are also super helpful. They allow me to monitor my sales and purchases easily.
I can’t forget about payroll processing ! It makes paying my employees a breeze. The customization options let me tailor the software to fit my needs. Lastly, I feel secure using Tally ERP 9 because of its security features that protect my data.
System Requirements for Tally ERP 9
Before I installed Tally ERP 9, I made sure to check the system requirements . It’s important to have the right setup for everything to run smoothly. I found the Tally ERP 9 installation guide really helpful. It walked me through the steps, making the process easy and quick!
Here’s a quick list of what I needed:
Operating System: Windows 7 or higher
RAM: Minimum 1 GB
Disk Space: At least 1 GB free space
With these requirements, I was ready to go!
Tally ERP 9 for Windows
I really enjoy using Tally ERP 9 for large enterprises. It makes managing my business tasks so much easier. With the Tally ERP 9 cloud version, I can access my data from anywhere, which is super convenient! Plus, I can even use the Tally ERP 9 mobile app to keep track of things on the go.
How to Download Tally ERP 9 for Windows 10
If you’re looking to get Tally ERP 9 free download for Windows 10, it’s pretty simple! Here’s how I did it:
Go to the official Tally website.
Look for the download section.
Choose the Tally ERP 9 download latest version.
Click on the download button and wait for it to finish.
Once it’s downloaded, I just followed the installation steps, and I was ready to go!
Tally ERP 9 Download Latest Version
Sometimes, I need to access older features, so I check out the Tally ERP 9 download old version. It’s nice to have options! Also, if you’re a student or just want to learn, you can try the Tally ERP 9 educational version free download. It’s a great way to get familiar with the software without spending any money!
“Tally ERP 9 is a fantastic tool for anyone looking to manage their business efficiently!” 😊
Tally ERP 9 Educational Version Free Download
I’m thrilled to talk about the Tally ERP 9 educational version! This version is perfect for students and anyone who wants to learn how to use Tally without spending a dime. I found it super helpful when I was starting out.
With the Tally ERP 9 educational version, I got access to amazing Tally ERP 9 training resources. These resources helped me understand the software better. I could explore various features through Tally ERP 9 tutorials, which made learning fun and easy!
Benefits of Using the Educational Version
Using the educational version of Tally ERP 9 has so many benefits! Here are some Tally ERP 9 tips and tricks I discovered:
Hands-On Learning : I could practice without any pressure.Explore Features : I learned about all the cool features available.No Cost : It’s free, which is awesome for students like me!
Also, I found Tally ERP 9 FAQs really helpful. They answered many questions I had while learning.
How to Activate Tally ERP 9 Free
Activating Tally ERP 9 for free is super easy! Here’s how I did it:
Download the Tally ERP 9 educational version.
Open the software and follow the prompts.
For Tally ERP 9 license activation, just enter the details as instructed.
Sometimes, I faced Tally ERP 9 troubleshooting issues, but I quickly found solutions online. It’s great to know that help is always available!
FAQ
I often have questions about Tally ERP 9, just like many others. Here are some common ones I found while exploring this software.
How can I install Tally ERP 9 on my laptop?
Installing Tally ERP 9 on my laptop was a breeze! I followed these simple steps:
Download the Software : I went to the official Tally website and downloaded the latest version.Run the Installer : After downloading, I clicked on the installer file.Follow Instructions : The installation wizard guided me through the process.Finish Setup : Once completed, I opened Tally ERP 9, and I was ready to start!
Can we learn Tally ERP 9 for free?
Absolutely! I discovered that I could learn Tally ERP 9 for free through the educational version. This version is perfect for students or anyone wanting to get familiar with Tally without spending money. Plus, there are many resources available online, including Tally ERP 9 community forums, where I could ask questions and share experiences with others.
Is Tally ERP 9 difficult?
When I first started, I thought Tally ERP 9 might be difficult. But after using it for a while, I realized it’s pretty user-friendly! The tutorials and guides helped me a lot. If I ever got stuck, I could reach out to Tally ERP 9 customer support for assistance. Overall, with a little practice, I found it easy to navigate!
“Learning Tally ERP 9 is like riding a bike; it gets easier with practice!” 🚴♂️
ในยุคสมัยปัจจุบันการที่ต้องทำงานในออฟฟิศมักจะมีสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ อาทิเช่น การนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ไม่ได้ลุกไปไหนจนอาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบ และมีอาการปวดควบคู่กันไป ซึ่งในประเทศไทย ประชากรถึงร้อยละ 60 ประสบปัญหาเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยรุ่นช่วงยี่สิบต้นๆ ดังนั้นข้อมูลนี้จึงจำเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับอาการทั่วไปเหล่านี้
ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร ? เป็นโรคที่มักส่งผลกระทบต่อคนที่ทำงานในสำนักงาน เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่มักจะต้องนั่งทำงานในลักษณะนั่งโต๊ะและเก้าอี้เป็นเวลานานๆ จนก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บสะสม ได้แก่ อาการปวดหรือกดเจ็บของกล้ามเนื้อ การยืดหยุ่นไม่ได้ และในบางครั้งความผิดปกติของการบาดเจ็บสะสมอาจก่อให้เกิดก้อนเล็กๆ ภายในกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังได้
อาการของออฟฟิศซินโดรม ท่าทางและความรู้สึกในการทำงานหรือการเคลื่อนไหวตามปกติ ที่อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น
อาการปวดเรื้อรัง ในที่นี้หมายถึงเมื่อกดลงบนจุดที่บอบบางในกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการปวดและกดทับในกล้ามเนื้อ และปวดที่ด้านหน้าของหัวเข่าและรอบๆ สะบ้าหัวเข่า อาการปวด ชา และรู้สึกเสียวซ่า มักจะเกิดขึ้นที่มือ ข้อมือ และแขน นิ้วล็อค ทำให้เกิดอาการปวด ตึง และรู้สึกนิ้วล็อคหรือเมื่องอและยืดนิ้วการอักเสบของเส้นเอ็น ที่มักเกิดกับข้อศอก ข้อมือ นิ้ว ต้นขา และส่วนอื่นๆ ของร่างกายปวดหลัง หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณหลังซึ่งเกิดจากท่าทางที่ไม่ดีอาหารไม่ย่อย รวมถึงท้องอืด ไม่สบาย คลื่นไส้ และเรอ
สาเหตุของการเกิดอาการออฟฟิศซินโดรม นอกจากการนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆแล้ว สาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการ Office Syndrome ที่พบบ่อย ได้แก่
การนั่งไขว่ห้าง การนั่งท่านี้เป็นเวลานานจะทำให้ขาข้างหนึ่งต้องรับน้ำหนักขาอีกข้างหนึ่ง อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสภาพกระดูกสันหลัง นั่งหลังค่อมหรือก้มตัวไปข้างหน้า จะทำให้กระดูกสันหลังงอ ยิ่งถ้าอยู่ท่าเดิมไปนานๆ โดยไม่ขยับเลย จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง จนมีอาการเมื่อยล้าตลอดเวลา และกระดูกอาจคดงอผิดรูปถาวรได้ ยืนโดยทิ้งน้ำหนักไว้ที่ขาด้านหนึ่ง ทำให้น้ำหนักตัวกระจายตัวไม่เท่ากันระหว่างขาทั้งสองข้าง จึงเกิดการปวดเมื่อยและเป็นตะคริว การสะพายกระเป๋าบนไหล่ข้างหนึ่ง จะก่อให้เกิดอาการปวดไหล่ตามมาและนำไปสู่อาการเรื้อรัง การสวมรองเท้าส้นสูงมากกว่า 1.5 นิ้ว เพราะการใส่รองเท้าที่สูงเกินไปบ่อยๆ จะทำให้กระดูกสันหลังผิดแนวและทำให้ปวดหลังได้
วิธีรับมือกับอาการออฟฟิศซินโดรม เมื่อรู้สึกมีอาการปวดเมื่อยแค่นวดอย่างเดียวคงยังไม่เพียงพอ แม้ว่าอาจบรรเทาอาการปวดได้ในช่วงแรก แต่อาการเดิมอาจกลับมาเป็นซ้ำหรือแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป แทนที่จะแก้ไขเพียงเบื้องต้น การปรับตัวเองและสภาพแวดล้อมของคุณเองจะช่วยใหผลลัพธ์ได้ดีกว่าในระยะยาว
พฤติกรรมของคุณเอง เริ่มได้จาการพักสายตาจากคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10 นาที เปลี่ยนท่านั่งเวลาทำงานทุกๆ 20-30 นาที และยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกชั่วโมง หรืออาจจะลุกขึ้นและเดินไปรอบ ๆ นอกจากนี้การออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของคุณได้
พื้นที่ทำงานของคุณ เริ่มจากการตั้งคอมพิวเตอร์และแป้นพิมพ์หันเข้าหาคุณ ส่วนของหน้าจอควรอยู่เหนือเส้นขอบตาของคุณเล็กน้อย ควรเหลือพื้นบนโต๊ะให้คุณใช้เมาส์และขยับแขนได้สะดวก และคอมพิวเตอร์ควรจะอยู่ห่างจากตัวคุณในระยะช่วงแขน
จากที่กล่าวมา โรคออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่หลายคนอาจหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เราสามารถดูแลและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมตัวเอง และการปรับสภาพแวดล้อมของที่ทำงานให้ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้เกิดอาการแล้วถึงจะเริ่มทำ เพราะการดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดออฟฟิศซินโดรมได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“Work-Life-Balance” คำนิยมของคนสมัยใหม่ จุดสมดุลของการใช้ชีวิตและทำงาน ถ้ามองจากมุมคนทำงานแล้วการมีสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่การทำงานออฟฟิศทั่วไปการจัดการ work-life-balance ก็เป็นไปได้ยาก ทำให้คนสมัยใหม่ไม่ค่อยมีไฟในการทำงานออฟฟิศและหันไปทำงาน freelance ที่ได้ทั้งงานได้ทั้งการใช้ชีวิต ออกไปทำงานที่นอกกรอบ ทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเจ วันนี้เรารวมมาให้แล้วเช็กลิสต์ออฟฟิศเพื่อคนรุ่นใหม่ต้องมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1.พื้นที่ทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้
ทำให้พื้นที่ออฟฟิศสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ หรือเรียกง่ายๆว่าออกแบบการจัดพื้นที่ให้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น มีโซนพักผ่อนแต่ก็มีปรับหรือโต๊ะเพื่อนั่งทำงานคุยงานเล็กๆน้อยไปด้วยได้ หรือการออกแบบห้องทำงานที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องประชุมได้ ห้องทำงานของแต่ละแผนกสามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยน layout การทำงานได้
2.พื้นที่แบบไม่เป็นทางการ หรือ พื้นที่ชิล
การจัดโซนภายในที่ไม่ตายตัว มีพื้นที่ให้พนักงานนั่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการมาทำงานในแต่ละวัน หรือจะเป็นโซนเพื่อผ่อนคลายทั้งจากความเครียดของงานหรือความเมื่อยล้าของร่างกายก็เป็นการดีเลย ชิลหน่อยได้งานแล่นชัวร์ ยิ่งออฟฟิศไหนสายครีเอทีฟยิ่งสำคัญเลย บรรยากาศพื้นที่มีผลต่อการคิดงาน 100%
3.เพิ่มสีเขียว เพิ่มพื้นที่ธรรมชาติ
การเพิ่มพื้นที่ธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า น้ำพุ หรือแม้แต่พรมหญ้าสีเขียวให้เป็นจุดที่สดชื่น นอกจากเรื่องความสดชื่นของออฟฟิศแล้วยังทำให้การออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศดูสวยงามอีกด้วย พนักงานก็มีที่พักสายตาก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นได้โดยเราไม่ต้องทำอะไรเลยก็ว่าได้ ทั้งสดชื่น ทั้งผ่อนคลาย
4.เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ
อย่างที่รู้กันการนั่งทำงานนานๆก็สามารถทำให้ร่างกายพังได้เลยทีเดียว การที่ออฟฟิศมีเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแลเรื่องสุขภาพของพนักงานสักหน่อย บอกได้เลยว่านั้นคือสวรรค์ของการมาทำงานของพนักงานเลยละ ไม่ต้องทนเมื่อยนั่งทำงาน ทนนั่งเก้าอี้ที่ปวดหลัง ทำงานไม่เป็นสุขแล้ว
5.พื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง
เพิ่มความโปร่งของออฟฟิศด้วยการจัดสรรพื้นที่ให้มีความโปร่ง ลดการกั้นพื้นที่หรือห้อง และใช้การแบ่งพื้นที่โดยใช้ฉากกั้นเล็กๆ หรืออาจะเป็นการปูพื้นให้มีสีที่ต่างก็เป็นการแบ่งพื้นที่ใช้งานได้ดีเช่นกัน นอกจากความโปร่งของออฟฟิศจะทำให้รู้สึกโล่งสบาย พนักงานไม่รู้สึกถูกปิดกั้นหรือโดนกำหนดขอบเขตจนเกินไป แล้วยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วยเพราะเมื่อไม่มีการการกั้นห้องการติดต่อสื่อสารและคุยงานกันได้สะดวกขึ้น
6.สร้างที่ทำงานให้เป็นวิมาน
จัดสรรพื้นที่ให้เหมือนกับบ้าน ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น สบายใจ และผ่อนคลายไปในเวลาเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องจัดในทุกโซนของออฟฟิศก็ได้ อาจจะเลือกจัดในมุมมุมหนึ่งเพื่ออให้พนักงงานได้เข้าไปใช้งาน เมื่อพนักงานรู้สึกสบายใจแล้ว การทำงานยิ่งมีประสิทธิภาพ และมีความสุขกับการมาทำงาน
7.การจัดการเสียงที่มีประสิทธิภาพ
เนื่องจากการจัดพื้นที่ออฟฟิศที่มีพื้นที่โล่งเป็นส่วนมาก การจัดการเสียงที่ดีย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากพนักงานในแต่ละแผนกต้องการบรรยากาศและลักษณะในการทำงานที่แตกต่างกันไป เช่นแผนกครีเอทีฟต้องการความเงียบสงบในการทำงาน แต่แผนกขายต้องติดต่อพูดคุยกับลูกค้าเพื่อให้ได้งาน หากระบบจัดการเสียงไม่ดี ออฟฟิศเละแน่นอน ฉะนั้นการจัดสรรพื้นที่ก็ต้องมีการแบ่งพื้นที่สงบงดใช้เสียงและห้องเพื่อใส่เสียงและพูดคุยโทรศัพท์ให้ออกจากกัน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
นอกจากการจัดสรรออฟฟิศให้มี work-life-balance ที่ดีแล้ว การเลือกทำเลที่ตั้ง ระบบรักษาความปลอดภัย ออฟฟิศใกล้สิ่งอำนวยสะดวกก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆของการเลือกพื้นที่ตั้งออฟฟิศที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นก่อนเลือกที่ตั้งออฟฟิศควรพิจราณาอย่าถี่ถ้วนทุกมุมมองเพื่อการลงทุนระยะยาวที่คุม
การที่จะเลือกเช่าออฟฟิศสักแห่งเป็นอะไรที่ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจเลยก็ว่าได้ ไหนจะเรื่องที่ตั้ง การเดินทาง บรรยากาศโดยรอบ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงพนักงานที่ต้องเดินทางมาทำงานอีก การเลือกออฟฟิศสำเร็จรูปนับว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวต้องเลือกให้ดีก่อนตัดสินใจ คงไม่มีใครที่ต้องการเปลี่ยนออฟิศบ่อยๆ ย้ายของไปมาทั้งตัวเจ้าของหรือแม้แต่พนักงานเอง วันนี้มาดูกันว่าก่อนตัดสินใจเลือกเช่าออฟฟิศต้องดูอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.ทำเลที่ตั้ง
2.การออกแบบ และดีไซน์
3.ราคาเช่า
ราคาค่าเช่าออฟฟิศสำเร็จรูปหลายแห่งก็จะมีราคาค่าเช่าสัญญาเช่าที่แตกต่างกันไป ตามทำเลที่ตั้ง การตกแต่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การจะเลือกเช่าออฟฟิศสักแห่งควรตัดสินใจให้ถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นการลงทุนในระยะยาวและการตัดสินใจมีผลต่อหลายๆปัจจัยในการทำงานภายในบริษัท
4.การปรับปรุง
ส่วนของการปรับปรุงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องดูและตัดสินใจ นอกจากเราจะคำนึงถึงปัจจัยภายในแล้ว เราต้องคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้งานในอนาคตของบริษัทอีกด้วย โดยการเลือกเช่าออฟฟิศจะต้องเลือกที่มีพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางหรือออกแบบใหม่ได้อย่างสะดวกและไม่กระทบต่อสิ่งต่างๆโดยรอบ ซึ่งการปรับปรุงที่ว่าอาจหมายถงการจัดวางพื้นที่ใหม่เช่นแบ่งโซนภายในแผนกใหม่ ปรับเปลี่ยนห้องสำหรับการทำงานเป็นห้องประชุม หรืออาจรวมไปถึงการปรับปรุงก่อนย้ายเข้ามาทำงานตั้งแต่ครั้งแรกที่เช่าเลยก็ได้
5. ระบบกล้อง CCTV
นอกจากบรรยากาศในการทำงานที่ดี การเดินทางที่สะดวกแล้ว ระบบน้ำและไฟฟ้าจะต้องดีตามไปด้วย หากระบบสาธารณูปโภคแย่การทำงานก็ติดขัดได้เหมือนกัน อีกสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึงอีกเรื่องเลยคือระบบกล้อง CCTV รปภ.รักษาความปลอดภัย สามารถเข้าออกได้ 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยของการเข้าทำงานของพนักงานและบริษัท
ก่อนเลือกตัดสินใจเลือกเช่าออฟฟิศมีสิ่งให้ต้องคำนึงถึงมากมาย ทั้งในส่วนของงบประมาณ ทำเลที่ตั้ง บรรยากาศในการทำงาน การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถึงระบบสาธารณูปโภคทั้งต้องครบครันเพื่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนเลือกเช่าออฟฟิศศึกษาอย่างถี่ถ้วนให้เหมาะสมกับธุรกิจที่คุณทำอยู่เพื่อประโยชน์ที่มากที่สุดและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ออฟฟิศเสมือน (Virtual Office) คืออะไร? ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น บริการออฟฟิศเสมือนคือการให้บริการโดยให้ยืมที่อยู่ เพื่อที่ท่านจะสามารถใช้ที่อยู่ดังกล่าวในการประกอบธุรกิจ ตั้งแต่เพื่อจดทะเบียนบริษัท จนถึงการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ได้
ผู้ให้บริการบางที่จะมีการบริการออฟฟิศเสมือนในรูปแบบที่ให้ยืมที่อยู่ทางธุรกิจพร้อมกับการให้บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Virtual Assistant) ที่จะเป็นผู้ช่วยเสมือนแบบมืออาชีพที่คอยรับสายเข้าออกและตอบคำถามให้กับคู่ค้าทางธุรกิจของท่านไปในตัวอีกด้วย
ที่อยู่จากออฟฟิศเสมือน (Virtual Office) ถูกต้องตามกฎหมายไหม? การที่ธุรกิจจะยืมที่อยู่จากบริการสำนักงานเสมือน (Virtual Office) เพื่อนำไปจดทะเบียนบริษัทเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ โดยได้รับการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งตรงนี้จะเป็นละคนส่วนกันกับการจดทะเบียนร้านค้า ที่จะต้องมีหน้าร้านก่อนจึงจะจดได้ แต่ถ้าหากธุรกิจของท่านไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ สามารถจดทะเบียนบริษัทได้ตามปกติ
นอกเหนือจากการจดทะเบียนบริษัท หรือจด VAT ที่อยู่ธุรกิจที่ได้จากบริการจะสามารถนำมาใช้ในนามบัตร การรับส่งเอกสาร การจดเบอร์โทรพื้นฐาน หรือทำนิติกรรมอื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์
ข้อดีของการใช้ออฟฟิศเสมือน (Virtual Office) ✓ ธุรกิจของท่านจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเสียค่าเช่าออฟฟิศแบบปกติ เนื่องจากไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายปลีกย่อยอื่นๆ เพิ่มเติม
✓ มีความยืดหยุ่นมากกว่า ไม่มีข้อผูกมัดเหมือนการเช่าออฟฟิศแบบปกติที่อาจมีระยะเวลาสัญญา 1-3 ปีขึ้นไป
✓ ท่านจะสามารถมีที่อยู่ทางธุรกิจเป็นตึกในย่านธุรกิจ หรือในตัวเมือง ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูมีความเป็นมืออาชีพ
✓ ที่อยู่จากบริการออฟฟิศเสมือนสามารถนำมาใช้ทำนิติกรรมไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนบริษัท หรือจด VAT ได้เหมือนที่อยู่จากการเช่าสำนักงานตามปกติทุกประการ
จะเห็นได้ว่า การใช้บริการออฟฟิศเสมือนนั้น นอกจากจะเข้ามาช่วยตอนจดทะเบียนบริษัท หรือจด VAT ยังช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท และช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจอีกด้วย
ออฟฟิศเสมือน (Virtual Office) เหมาะกับใคร? ✓ ธุรกิจออนไลน์: บริษัทที่ทำธุรกิจออนไลน์ และมีการติดต่อประสานงานผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด อาจเลือกที่จะให้พนักงานทำงานจากบ้านได้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเช่าสำนักงานแบบจริงจัง แต่เช่าที่อยู่จากออฟฟิศเสมือนเพื่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ
✓ สตาร์ทอัพ (Startups): สำนักงานเสมือน (Virtual Office) อาจถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ให้กับธุรกิจที่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัว หรือสตาร์ทอัพ เนื่องมีความยืดหยุ่นสูง ต้นทุนต่ำ แต่ยังไม่ทิ้งภาพลักษณ์ทางธุรกิจที่ดี
✓ บริษัทลูกเปิดสาขาใหม่: บริษัทที่ต้องการขยายสาขา หรือบริษัทที่ต้องการมีตัวแทนในประเทศไทยเอง ก็อาจมองสำนักงานเสมือนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ เพราะช่วยคุมค่าใช้จ่ายได้ดี จนกว่าจะมีความพร้อมจะขยับขยายที่ทางต่อไปในภายหลัง
✓ บริษัทที่กำลังย้ายออฟฟิศ: เนื่องด้วยที่อยู่ในการจดทะเบียนบริษัทต้องมีความต่อเนื่อง ไม่สามารถขาดตอนได้ ในกรณีที่อยู่ในช่วงระหว่างการหาเช่าออฟฟิศที่ใหม่ ซึ่งอาจมีช่องว่างอยู่ 2-3 เดือน ก็สามารถใช้บริการออฟฟิศเสมือนเป็นทางเลือกเฉพาะหน้าไปก่อนได้
จะเห็นได้ว่า การใช้บริการออฟฟิศเสมือนนั้นสะดวกมากกับบริษัทขนาดเล็กที่กำลังเริ่มต้น รวมทั้งธุรกิจออนไลน์ หรือสตาร์ทอัพที่ยังมีพนักงานน้อย และไม่ได้มีความต้องการในการเช่าออฟฟิศ การเช่าสำนักงานเสมือนจะช่วยท่านควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ทิ้งภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังมองหน้าบริการออฟฟิศเสมือนให้เช่า ลองเข้ามาดูข้อมูลของบริการออฟฟิศเสมือนของเราว่า Kaitak Narita โดดเด่นและแตกต่างยังไง คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด หรือติดต่อเรา
ระบบควบคุมการเข้า-ออกสำนักงาน
กล้องวงจรปิด หรือ CCTV ในสำนักงาน
ระบบการเตือนภัยสำนักงาน
Digital Security
